ค้นหาและแก้คำใน Figma อย่างรวดเร็ว ด้วย Find and Replace

Find and Replace เป็น Plugin ของ Figma ที่ใช้สำหรับค้นหาและแก้คนบนหน้าจอที่ออกแบบเอาไว้ ซึ่งมี Option ต่างๆที่ทำให้เราจบงานได้ง่ายขึ้น เช่น หาบางพื้นที่ในไฟล์ หาบางส่วนของประโยค หรือ หาแบบ case sensitive

Marach T.

20 Oct 2021


การแก้คำหลังจากดีไซน์เสร็จแล้วเป็นเรื่องปกติ

เรามักจะต้องแก้คำในงานหลังจากการผ่านการรีวิว ไม่ว่าจะเป็นจาก Product Manager ฝ่ายการตลาด ฝ่ายกฏหมาย หรือฝ่ายความเสี่ยง

ซึ่งถ้างานมีไม่กี่หน้าก็จะไม่ยาก แต่ถ้ามีหลายหน้าก็อาจจะพลาดได้

โจทย์คือ เราจะทำยังไงให้เราแก้คำทั้งไฟล์แบบไม่พลาดโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด

แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะพยามหาฟีเจอร์ Find and replace (ที่มีในโปรแกรมพิมพ์งาน เช่น Words, Google Docs, Pages) แต่ก็จะผิดหวังเพราะ Figma ดันไม่ได้ทำมาให้

รูปฟีเจอร์ Find and Replace จาก Google Doc

อย่างไรก็ตาม เรายังโชคดีที่มีคนทำ Plugin ให้เราไว้ใช้กันบน Figma!

Find and Replace เป็น Plugin ไว้แก้คำใน Figma อย่างรวดเร็ว

Find and Replace เป็น Plugin บน Figma ที่สร้างโดย Jackie Chui (ติดตั้งได้ที่ Find and Replace - Figma)

รูป Plugin ชื่อ Find and Replace จาก Figma

วิธีการใช้งานเบื้องต้นคือ

  1. พิมพ์คำที่ต้องการค้นหาในช่อง Search
  2. ระบบจะพาไปที่ text layer ที่มีคำนั้น
  3. พิมพ์คำที่ต้องการในช่อง Replace
  4. กด Replace
  5. ระบบจะแทนที่ทำให้และไปยัง text layer ถัดไปโดยอัตโนมัติ
  6. กด Replace ไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบทุก text layer

Interface ของ Find and Replace

จริงๆมี Replace all ด้วย แต่ว่าไม่ค่อยได้ใช้เพราะกลัวพลาดไปกระทบส่วนที่เราไม่ได้อยากจะแก้ไข

⚠️ ข้อควรระวัง ถ้าไฟล์ใหญ่มากๆ Figma อาจค้างได้

ปัญหาที่พบบ่อยเวลามีหน้าจอในไฟล์เยอะๆคือ Plugin จะช้าจนทำงานไม่ได้ วิธีการแก้คือใช้ option “Find in Selection” (ดูหัวข้อถัดไป)

เคล็ดลับ 1: ค้นหาแค่บางพื้นที่ในไฟล์ด้วย Find in Selection

บางครั้งเราอาจจะอยากแก้ไขคำแค่บางหน้าจอ เราสามารถทำ Selection แล้วใช้ option “Find in Selection” เพื่อค้นหาได้

วิธีการนี้สามารถใช้เพื่อแก้ Figma ค้างเพราะค้นหาจากไฟล์ที่ใหญ่เกินไปได้ โดยเลือกแค่บางจุดที่จะค้นหาเท่านั้น

Interface แสดงวิธีการใช้ Find in Selection

เคล็ดลับ 2: เราไม่ต้องพิมพ์คำ Search เอง

เพื่อประหยัดเวลาและป้องกันการพิมพ์ผิด เราสามารถเลือก Text Layer ไว้ก่อนที่จะเรียก Plugin ขึ้นมาเพื่อให้ระบบเติมคำใน Text layer ลงไปในช่อง Search แบบอัตโนมัติ

Interface แสดงวิธีประหยัดเวลาโดยไม่ต้องพิมพ์คำที่ต้องการค้นหาด้วยตัวเอง

เคล็ดลับ 3: ค้นหาแบบเฉพาะเจาะจง ต้องการค้นหาบางจุด / บางตำแหน่งของประโยค

บางครั้งคำที่เราใช้มีอยู่หลายที่ เราอาจจะอยากเพิ่มเงื่อนไขการหาให้ละเอียดขึ้น

Find and Replace ก็มี option ให้เราทำได้ง่ายขึ้นดังนี้

  • Beginning of text (ขึ้นต้นประโยค)
  • Anywhere in text (อยู่ตรงไหนก็ได้ในประโยค ซึ่งเป็นวิธี default)
  • End of text (อยู่ท้ายประโยค)
  • Exact match (ต้องเหมือนเป๊ะๆ ไม่มีอะไรต่อหัวท้าย)

Interface แสดงวิธีการค้นหาแบบเฉพาะเจาะจง ต้องการค้นหาบางจุด หรือ บางตำแหน่งของประโยค

หรือบางครั้ง เราอาจจะต้องหาคำที่ case sensitive (เช่น คำเฉพาะ หรือ หาตัวอักษรพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่) เราสามารถใช้ option “case sensative” ในการหาได้

Interface แสดงวิธีการค้นหาแบบ case sensitive

⚠️ ใช้ Plugin เพื่อการแก้ไฟล์ได้ไวๆ แต่ต้องระวัง

Find and Replace เป็น Plugin ที่ทำให้เราทำงานได้สะดวกขึ้น แต่ก็อาจจะพลาดง่ายเช่นกันเพราะถ้าเราพิมพ์คำคีย์เวิร์ดผิดก็อาจจะหาไม่เจอได้ ดังนั้นจึงต้องตรวจทานอีกครั้งเพื่อความชัวร์

👋 ทิ้งทาย: อย่าใช้ Search & Replace แต่จงทำ Component

ถ้าเรามี Pattern ที่ใช้ซ้ำกันในหลายๆที่ (เช่นชื่อแถบ Title ของหน้า) เราควรสร้างเป็น component เพื่อแก้คำในที่เดียวซึ่งจะเร็วกว่าและพลาดน้อยกว่าแน่นอน

Latest Posts

วิธีใช้ subgrid เพื่อให้เนื้อหา card เรียงกันแบบสวยๆ

สอนวิธีการใช้ subgrid เพื่อสร้าง card ที่มี layout ที่สวยงามและ flexible ได้ตามเนื้อหาที่ใส่เข้ามา

01 Jun 2024 • Marach T.

คู่มือเข้าใจ Burnout: เป็นที่เรา หรือเป็นที่งาน

เบิร์นเอาท์ (burnout) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายแต่รักษาให้หายขาดได้ยาก เพราะมักเกิดจากปัจจัยทั้งภายใน (ตัวเราเอง) และภายนอก (งาน)

17 Feb 2024 • Marach T.

Design principle คืออะไร และช่วยทีมโปรดักอย่างไร

Design principle คือ หลักการที่ใช้ตัดสินใจในการออกแบบ product – ช่วยให้ทีมตัดสินใจได้เหมาะสมและรวดเร็ว

11 Jun 2023 • Marach T.

ดู Posts ทั้งหมด